แรงดันลมยางมีความสำคัญอย่างไร

ยางรถในปัจจุบัน จะใช้ลมเป็นตัวช่วยในเรื่องของการซึมซับแรงสั่นสะเทือนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อการขับขี่ และจะช่วยให้ยางคงรูปในการใช้งาน เพื่อให้การหมุนของล้อเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด และแน่นนอนว่า ถึงแม้ว่าในปัจจุบันบางรถจะถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย และมีส่วนร่วมให้แรงดันลมภายในยาง สามารถลดลงได้ช้าลง แต่ถึงอย่างนั้น แรงดันลมยาง ก็ยังคงมีความสำคัญเช่นเดิม โดยที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรที่จะต้องหมั่นตรวจสอบ ดูแล และรักษาแรงดันลมยางให้ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ

เพราะตามปกติแล้ว จากการที่ยางรถเนื้อยาง จะมีรูพรุน และมีขนาดเล็กมาก โดยที่ขอบยางจะเป็นแบบไม่มียางใน ที่จะอัดอยู่กับขอบของกระทะล้อ ที่ถือแม้ว่าจะสามารถตรวจสอบด้วยวิธีอย่างการแช่น้ำ หรือใช้น้ำฟองสบู่ ถูตามขอบล้อ หรือจุ๊บลม แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าจะสามารถตรวจสอบได้เสมอไป เพราะโดยปกติตามธรรมชาติแล้ว แรงดันของลมที่อยู่ภายในยาง ซึ่งจะมีสภาพบรรยากาศที่สูงกว่าปกติหลายเท่า เพราะฉะนั้นย่อมมีการซึมออกมาอย่างช้าๆ ที่โดยเฉลี่ยแล้วจะมีการลดลงอย่างต่อเนื่องประมาณ 1 ปอนด์/ตารางนิ้วต่อสัปดาห์ และนี่แหละคือปัจจัยที่ทำให้ยางลมลดลง ทั้งๆ ที่ยางก็ไม่ได้รั่ว หรือชำรุด

เพราะฉะนั้นความถูกต้อง และความเหมาะสมมากที่สุด ของระดับลมยาง ที่จะส่งผลต่ออัตราความสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิง ที่สำหรับใครที่อยากทราบตัวเลขที่ถูกต้องจากผู้ผลิต ว่าระดับมาตรฐานนั้นควรที่จะต้องอยู่ที่เท่าไหร่ สามารถดูได้จากแผ่นสติ๊กเกอร์ที่ติดมาตั้งแต่แรกก็ได้นั่นเอง ยกตัวอย่างของรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า จะมีสติ๊กเกอร์ดังกล่าวติดอยู่บริเวณขอบตัวถังตรงประตูฝั่งคนขับ โดยที่แผนสติ๊กเกอร์ดังกล่าวจะเป็นตัวบอกตัวเลขอย่างชัดเจน สำหรับการใช้งานที่เหมาะสมของรถยนต์ในแต่ละรุ่นนั้นๆ ที่จะมีข้อมูลที่ชัดเจนของทั้งล้อหน้า และหลัง

และในกรณีที่ยางลมอ่อน หรือมีแรงดันยางที่น้อยจนเกินไป ที่น้อยกว่าระดับมาตรฐานในการใช้งาน ที่จะไม่ได้ส่งผลให้การขับขี่ไม่ได้สมรรถนะที่ดีที่สุด แต่ยังส่งผลให้รถมีการกินน้ำมันที่มากขึ้นอีกด้วย โดยที่จะกินน้ำมันมากขึ้นประมาณ 1 – 10 % เพราะยางลมที่อ่อน จะทำให้ยางมีแรงต้านในการหมุน ให้เกิดปฏิกิริยามากขึ้น ที่เครื่องยนต์จะต้องออกแรงมากยิ่งขึ้น ที่จะส่งผลให้แก้มยาง และโครงยาง มีการยุบตัว ยืดตัว ที่มากเกินไป ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง ที่มีตัวเลขที่มากถึง 1 – 50 % โดยที่จะมีของแถมนั่นก็คือดอกยางที่จะสึกผิดปกติ ส่งผลโดยตรงต่อการใช้งานได้นั่นเอง