เรื่องที่ทุกคนมักจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ หลังจากที่ซื้อรถยนต์มาใหม่ นั่นก็คือการติดฟิล์มกรองแสง ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศในเขตร้อน ที่ถ้าหากจะมีความเสี่ยงจนเกินไป ถ้าหากจะเลือกใช้รถยนต์ในสภาพเปลืองเปล่าที่ไม่ได้ติดฟิล์มบนท้องถนน ในขณะที่อุณหภูมิ และแสงแดดที่ร้อนอบอ้าว ที่จะส่งผลเสียโดยตรงเป็นอย่างมากกับหลายๆ อย่าง
แต่การจะติดฟิล์มแต่ละครั้ง กไม่ใช่ว่าจะใช้เงิน และค่าใช้จ่ายที่น้อย แถมยังมียี่ห้อ และประเภทให้เลือกใช้งานหลายยี่ห้อ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงอยากมาแนะนำวิธีเลือกฟิล์มกรองแสงรถ ว่าเลือกแบบไหน ดีทั้งกับรถยนต์ และผู้ใช้งานมากที่สุด
เลือกฟิล์มติดรถยนต์ จากระดับของราคา
ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ราคาทั่วไปนั้น โดยปกติแล้วจะมีราคาค่าใช้จ่ายที่จะอยู่ประมาณหลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักพันกลางๆ โดยปกติการเลือกใช้งานฟิล์มลักษณะดังกล่าว จะผลิตขึ้นมาจากกระบวนการย้อมสีให้ดำ อาจจะสามารถป้องกันแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาของแสงแดด และกันรังสีจากดวงอาทิตย์ได้ แต่ก็จะไม่ได้ป้องกันที่มากถึง 99% โดยที่จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิล์มแต่ละยี่ห้อที่เลือกใช้งาน
ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ราคาระดับกลาง หรือราคามาตรฐาน สำหรับฟิล์มกรองแสงรูปแบบนี้จะเป็นฟิล์มที่ถูกเคลือบมากด้วยสารกันความร้อน โดยที่ฟิล์มรูปแบบดังกล่าวเรามักจะรู้จักกันในชื่อ ฟิล์มปรอท ลักษณะการใช้งาน จะมีความมันวาว สามารถกันความร้อนได้ดี กันรังสี UV ได้มากถึง 99% แต่ในเรื่องของการป้องกันความร้อนก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณการเคลือบสะท้อนแสง ที่แต่ละยี่ห้อ้ลือกใช้งาน ซึ่งราคาติดฟิล์มประเภทนี้ จะอยู่ที่ประมาณหลักพันกลางๆ ถือว่าเป็นเกรดการใช้งานยอดนิยมเป็นอย่างมากภายในประเทศไทย
ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม สำหรับฟิล์มติดรถระดับพรีเมี่ยมนั้น จะมีราคา ค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งก็จะมอบคุณภาพที่มากกว่าการป้องกันความร้อน ที่จะสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรด ได้มากกว่าฟิล์มติดรถยนต์ประเภทอื่นๆ และก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคุณภาพที่สูงขึ้น ก็มักจะต้องตามมาด้วยราคาที่แพง โดยที่การติดฟิล์มประเภทนี้ จะเป็นการเลือกใช้ฟิล์มเซรามิค หรือประเภท ฟิล์มนาโน มาเป็นส่วนผสม ซึ่งราคาติดตั้งฟิล์มประเภทดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณหลักหมื่น ไปจนถึง หลายๆ หมื่นเลยทีเดียว แต่จะมอบความคุ้มค่ากับการใช้งานอย่างแน่นอน เพราะจะมอบคุณสมบัติการป้องกันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ การลดแสงสะท้อนในห้องโดยสารเพื่อให้ขับขี่สบายตา หรือการป้องกันการแตกกระจายแบบนิรภัย การป้องกันความร้อนสูงสุดเกิน 90% เพิ่มมาให้นั่นเอง
